วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เที่ยว Poring Hot Spring & Canopy Walk Way

ตื่นเช้ามาก็ออกเดินทางไปทริปคินาบาลูปาร์คกับพอริ่งฮอทสปริง ทัวร์เริ่ม 8 โมงเช้า เราก็รีบไปทานอาหารเช้าของโรงแรมก่อน รอนานมากจนเกือบ 8 โมงแล้วยังไม่ได้ เราก็เลยบอกให้เขาทำใส่กล่องให้เราแทน เป็นไข่ดาว ฮอทด็อกสองชิ้น ราดซอสถั่ว ใส่กล่องมา 3 กล่อง โชเฟอร์เรามารออยู่นานแล้ว ทริปนี้มีฝรั่งจอยเรามาด้วย 1 คนเป็นสาวชาวออสซี่ ชื่อเอริน

เริ่มออกเดินทางจากโรงแรม Rainforest Lodge ออกมานอกตัวเมือง  สักพักโชเฟอร์ก็พาเราออกมาบนถนนเส้นนี้ที่เลียบชายฝั่งของเมืองโคตาคินาบาลู วิวสวยงามมากมายครับ 


ตรงนี้คืมัสยิดใหญ่ของเมืองโคตาคินาบาลูครับ สวยงามเลยทีเดียว แต่เราไม่มีเวลาแวะที่นี่ครับ เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวก็ไปเที่ยวถ่ายรูปได้ด้วยครับ 


ขับออกมาประมาณ 40 นาทีก็ถึงสถานที่ที่เรียกว่าบ้า่นกลับหัวครับ เป็นสถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูป เราไม่ได้เข้าข้างในเพราะค่าเข้า 18 ริงกิต เราถามว่าข้างในมีอะไร เขาบอกว่ามีเฟอร์นิเจอร์ที่ประดับตกแต่งอยู่ภายในบ้านแต่ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านกลับหัวทั้งหมดครับ 


ด้านข้างๆของบ้านกลับหัวก็มีรถยนต์กลับหัวด้วยครับ อิๆ


อีกมุมนะครับ มองจากรั้วด้านนอกถ่ายเข้ามาด้านใน 


ขับไปอีกปรมาณ เกือบ ชั่วโมงก็มาถึงสถานที่ชมวิวของยอดเขาคินาบาลูครับ เป็นสถานที่พักรถและมีสินค้าจำพวกของที่ระลึกจำหน่าย เราก็ได้แม่เหล็กติดตู้เย็นมา 3 อัน 10 ริงกิต สวยๆทั้งนั้น 


ป้าอ้อยกับยอด Mt.Kinabalu ครับ 


เจ๊ปลากับร้านขายของที่ระลึกครับ 


อันนี้เอารูปแม่เหล็กติดตู้เย็นและกรรไกรตัดเล็บที่ซื้อมาแจกที่เขาขายกันจะเป็นแบบนี้ ส่วนโปสการ์ดจะซื้อมาจากสถานสงเคราะห์ลิงอุรังอุตังที่เซปิโละก์ที่จะกล่าวถึงตอนหลัง 



ขับมาเรื่อยๆก็จะถึงสถานที่ของอุทยานโคตาคินาบาลู


ป้ายค่าเข้า รวมในทริปแล้ว คนละ 15 ริงกิต สำหรับชาวต่างประเทศ 


เข้ามาข้างในจะเป็นอาคารนิทรรศการ ของคินาบาลูปาร์ค ประวัติความเป็นมา และพรรณพืชพรรณสัตว์ต่างๆ


ภาพนี้แสดงดอกบัวผุด (ประเทศไทยมีที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี) ที่มีขนาดใหญ่มากของคินาบาลูปาร์ค ครับผม 

ด้านหน้าอาคาร ภายนอก มีป้ายแสดงสถิติ คนที่ขึ้นเขาคินาบาลูได้เร็วที่สุดครับ 


สักพักโชเฟอร์ก็พาเรามาด้านหลังของอาคารนี้บอกว่ามาดูดอกบัวผุดที่ใหญ่อลังการมากๆ


พอมาดูปรากฏว่าเป็นดอกบัวผุดปลอม ทำเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปครับ เจ๊ปลาเลยจัดซะ 1 รูป


ไปอีหน่อยก็ถึงที่ฮอทสปริงที่อยู่ใกล้กัน และฝั่งตรงข้ามเป็นร้านอาหาร โชเฟอร์พาเรามากินข้าวเที่ยงก่อนครับ ให้อาหารเยอะมากๆ กอนแทบไม่หมด รสชาติก็ถูกปากใช้ได้ครับ เหมือนๆอาหารบ้านเราเลย 


ร้านอาหารนี้เป็นของโรงแรมชื่อ Round Inn มี Wifi ให้ใช้ฟรีด้วยครับ แต่ต้องขอพาสเวิร์ดจากร้านครับ 


กินข้าวเที่ยงเสร็จโชเฟอร์ก็พาเรามาข้ามถนนมายังพอริ่งฮอทสริงและคานูปปี้วอล์คเวย์ครับ จ่ายค่าเข้าตรงนี้ พี่โชเฟอร์จัดการให้ (รวมในแพคเกจแล้ว คนละ 18 ริงกิต ถ้าจำไม่ผิด) และ เราจะต้องจ่ายค่ากล้องถ่ายรูปตัวละ 10 ริงกิตด้วย ชาร์ตแบบมหาโหดมากประเทศนี้ ก็เลยต้องซ่อนกล้องเล็กไว้ในกระเป๋า แล้วค่อยเอามาใช้ทีหลัง จ่ายแต่กล้องใหญ่กล้องเดียว 


จ่ายตังค์แล้วก็เดินมาทางนี้ครับ เป็นทางเดินเข้าไปข้างในป่า


ฝนเจ้ากรรมตกแบบไ่ม่มีปี่มีขลุ่ย เปียกเลย ดีที่โชเฟอร์เตรียมร่มมาให้แล้ว


สระว่ายน้ำร็อคพูล สวยน่าว่ายเล่น แต่ฝนตก มีป้ายเตือนด้วยว่า "swim at your own risk" ประมาณว่าว่ายน้ำแบบดูแลตัวเองไม่มีใครมาดูแลคุณหรอกนะ  


อีกรูปอีกมุมของสระว่ายน้ำร็อคพูล


ฝั่งตรงข้ามเป็นฮอทสปริงที่นักท่องเที่ยวมาแช่เท้าหรืออาบน้ำแร่แบบอุ่นๆร้อนๆ


ทางเดินไป Canopy Walkway ครับ


ต้องเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆเลยนะครับแบบบนี้เลย ฝนยังไม่หยุดตกเลย 


ป้ายบอกทางว่าเราเดินขึ้นมาระยะทาง 550 เมตรแล้ว 


สุดท้ายก็มีสเตชั่นให้เริ่มเดินบน Canopy Walkway แบบนี้ มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจบัตร และตรวจกล้องตรงนี้  เราจ่ายมากล้องเดียว แต่เขาเห็นมากกว่า 1 กล้อง เราเลยบอกว่าเราจะเก็บกล้องเอาไว้ไม่ใช้ เขาเลยโอเค (แบบไม่เต็มใจนัก) 


ทางเดิน Canopy Walkway จะเป็นแบบนี้ครับ เป็นไม้กระดานแผ่นใหญ่ ยาว มีเชื่อกรับน้ำหนัก ผูกติดกับต้นไม้ใหญ่ ขอบากว่าต้นไม้ใหญ่มากจริงๆครับ สูงมากด้วย ป่าบอร์เนียวนี้อุดมสมบูรณ์จริงๆเลยครับ


เจ๊ปลาบน Canopy Walkway ครับ


หลวงไข่แอบหลังต้นไม้ครับ (หล่อนักรึไง)


อันนี้ชมนกชมไม้แบบชิลๆครับ ฝนเร่มหยุดแล้ว ต้นไม้สูงใหญ่มากๆๆๆๆ (เฮ้ย!! พุง!!)


เดินจนเหนื่อยแล้วครับ สุดทางก็เดินลงมาด้านล่างทางเดิม แล้วลงแวะแช่เท้าที่ poring hot spring 


เจ๊ปลาภูมิใจนำเสนอ มีผู้ชายหนุ่มๆ อยู่ข้างหลังเป็นแบ็คกราวน์ อิๆ


ขอสักรูปละกัน หลวงไข่ไม่มีรูปเลยนิ


แช่น้ำ poring hot spring จนหนำใจแล้วก็กลับเมืองโคตาคินาบาลูครับ ระหว่างทางแวะตลาดสดด้วยครับ เพราะขามาก็ผ่านแต่บอกโชเฟอร์เอาไว้ว่าขอแวะขากลับด้วย (คนละที่กับที่ซื้อของที่ระลึกก่อนหน้านี้นะครับ)


ใบอะไรก็ไม่รู้ชุบแป้งทอด คล้ายๆ ใบกระท่อม อิๆๆ


กลับมาถึงโรงแรมก็ไม่เย็นมากเลยออกมาเดินเล่นกัน เดินออกมาเลียบถนนชายหาดก็จะเจอกับเจ้าปลาตัวนี้เป็นวงเวียน สัญลักษณ์โคตา คินาบาลูครับ


อ่าวที่เมืองโคตา คินาบาลู ใกล้กับวงเวียนปลาหัวเข็มครับ 


อิๆ รูปนี้ เป็นโปรไฟล์ในเฟซบุ๊คผมเองครับ 


ตลาดริมอ่าวเป็นที่ขายอาหารตอนเย็นครับ ส่วนใหญ่จะเป็นซีฟู้ดครับ


ขนมหวานหลากสี เราสั่งข้าวกินแบบอาหารตามสั่งแบบกับข้าว แล้วก็เดินกลับโรงแรมพักผ่อนครับ


ก่อนกลับก็ถ่ายรูปกับเจ้าปลาโลมาริมอ่าว ตัวนี้อีกตัวครับ อยู่ไม่ไกลจากเจ้าปลาหัวเข็มที่วงเวียนในรูปก่อนหน้าครับผม

อ่านบทความถัดไป เดินเที่ยวในเมือง Kota Kinabalu, เที่ยวหมู่บ้าน Mari Mari Cultural Village
อ่านบทความก่อนหน้า เดินทางจาก หาดใหญ่ สู่ Kuala Lumpur และ Kota Kinabalu

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น